ที่มา http://bfjg.blogspot.com/2007/12/boiling-casio-g-shock-mudman.html
แปลและเรียบเรียง watch2home
สวัสดีครับ เริ่มต้นปีใหม่ด้วยบทความเกี่ยวกับการทดสอบประสิทธิภาพของนาฬิกา แบบแปลกๆกันอีกครั้งนะครับ คราวนี้มีการทดลองที่ส่งตรงมาจาก อเมริกาโน้น และผมได้ขออนุญาต นำบทความมาแปลป็นเวอร์ชั่นภาษาไทยกับทางผู้แต่ง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับบทความครั้งนี้ผมได้ทำการเรียบเรียงภาษาใหม่ และมีการเพิ่มข้อมูลบางส่วน เพื่อให้สมบูรณ์และอ่านง่ายขึ้น (หรืออาจงงกว่าเดิม) นะครับ....
ผู้ที่ได้ใช้นาฬิกาในตระกูล G-Shock Mudman จะประสบพบเจอกับปัญหาที่ว่า ปุ่มของนาฬิกา จะแข็งมาก จะกดทีต้องออกแรงกดกัน ซึ่งสาเหตุที่มันต้องแข็งขนาดนั้นเนื่องจากว่า รุ่นนี้ถูกออกแบบมาให้สามารถกันฝุ่นกันโคลนได้ ดังนั้นอุปกรณ์ในทุกๆส่วนของนาฬิกา จึงต้องแข็งแรงและมิดชิด
ด้วยเหตุนี้ จึงมีการกล่าวกันว่า หากนำขอบยางของนาฬิกาไปต้มเป็นเวลา 20-30 นาที จะทำให้ให้ชิ้นส่วนเหล่านั้นนิ่มลงได้ ซึ่งจะส่งผลให้กดปุ่มได้ง่ายขึ้น Mr.Brian จึงอยากจะทดสอบดูด้วยตัวเองว่า จะเป็นอย่างนั้นจริงๆหรือปล่าว
คำเตือนสำหรับผู้ที่จะทดลองทำ การถอดแยกชิ้นส่วน ต้องตรวจสอบให้ดีว่าคุณมีไขควงที่ถูกต้องตรงตามขนาด เพราะสกรูที่ยึดอยู่บนนาฬิกาจะมีขนาดที่ค่อนข้างเล็ก การใช้ไขควงที่ไม่ตรงตามขนาด อาจทำให้เกิดความเสียหายได้ และ Mr.Brian ยังฝากบอกมาด้วยว่า ถ้าหากทำตามเขาแล้วนาฬิกาคุณพัง เขาจะไม่รู้ไม่ชี้ด้วยนะครับ ดังนั้นหากจะลองทำ ก็ใช้ความระมัดระวังด้วยนะครับ ส่วนผมขอบายละครับ ให้มันมีอุปสรรค์บ้าง mudman ของผมจะได้มีคุณค่ามากขึ้น
เมื่อถอดสายออกไปได้แล้ว ก็จะไม่มีอะไรมาเกะกะ หยิบถือนาฬิกาได้สะดวกมากขึ้นด้วย
แต่จริงๆ แล้ว ไม่จำเป็นต้องเปิดฝาด้านหลัง เพื่อถอดหน้ากากด้านหน้าออกมาเลย ส่วนจะทำอย่างไรนั้น
ติดตามอ่านกันนะครับ เดี๋ยวจะเจอคำเฉลยอยู่ด้านล่าง
ค่อยๆ คลายสกรูทั้ง 4 ตัวออกมา แล้วเก็บแยกส่วนเอาไว้ แต่ฝาด้านหลังก็ยังไม่สามารถเปิดออกได้
และสกรู 2 ตัวนี้เองที่เป็นตัวยึดหน้ากากเอาไว้ นี่จึงเป็นคำตอบว่าทำไมถึงไม่ต้องเปิดฝาด้านหลังออกมา
เมื่อจัดการกับสกรูตัวจิ๋วได้แล้ว เราก็จะสามารถแยกชิ้นส่วนออกมาได้ โดยเริ่มจากถอดกันชนด้านหลังออกก่อน
และถอดฝาหลังออกมาตามลำดับ และระมัดระวังอย่าให้ของข้างในหลุดออกมา เดี๋ยวจะยุ่งไปกันใหญ่
เมื่อถอดทุกอย่างออกไป เราก็จะเห็นอุปกรณ์ภายในดังภาพ ชื่นชมกันให้เต็มที่
ต่อมา เริ่มการถอดหน้ากากด้านหน้าออกมา ซึ่งจะต้องใช้ความพยายามเล็กน้อย เพราะค่อนข้างแข็ง ค่อยๆแกะออกมาทีละฝั่งโดยเริ่มจากฝั่งที่ปุ่มกดเป็น สี่เหลี่ยม จะแกะได้ง่ายกว่า
ในที่สุดก็แกะได้แล้ว!! และถ้ามองดูในภาพจะพบว่ามี สปริงตัวเล็กๆ อยู่ด้วย ระวังอย่าให้สปริงอันนี้ได้รับความระทบกระเทือนหรือหล่นหาย
และแล้วก็มาถึงเวลาที่ทุกท่านรอคอย เรือนร่างอันปล่าวเปลือย ของน้อง G
ตอนแรกกะจะใช้ เรือนร่างอันปล่าวเปลือย ของ Mudman ตามต้นฉบับ แต่มันฟังดูหดหู่ยังไงพิกล
เอาล่ะ เมื่อเราถอดชิ้นส่วนออกมาหมดแล้ว ก็จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการต้มกันแล้ว
เราจะต้มทั้ง 3 ชิ้นเป็นเวลา 20 นาที จับเวลาด้วย GW-9000
ในระหว่างรอ เราก็กลับมาดูนาฬิกาของเราอีกครั้ง หลังจากที่โดนถอดชุดเกราะออกไปแล้ว มีที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือ โดยปกติ นาฬิกาเรือนนี้จะเปิดการทำงาน เสียงเตือนทุกๆชั่วโมงไว้ แต่เมื่อโดนจับเปลือย กับไม่มีเสียงร้องออกมาซักแอะ.... ไม่ใช่ว่าอายหรอกนะครับ แต่เป็นเพราะ เจ้าสปริงตัวเล็กๆที่อยู่บริเวณด้านหลัง ในภาพที่ 8 ไม่ได้สัมผัสกับแผ่น stainless ด้านหลัง ทำให้ไม่ครบวงจร เสียงเลยไม่ดัง เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าซับซ้อนถึงขนาดนี้
กลับมาดูในหม้ออีกครั้ง น้ำเดือด ปุดๆ ปล่อยทิ้งไว้จนครบ 20 นาทีโดยไม่ต้องคน
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เมื่อครบ 20 นาทีแล้ว นำทั้ง 3 ส่วนมาวางทิ้งไว้ให้แห้สนิท แล้วประกอบย้อนหลังกลับเข้าไปเหมือนเดิม
ผลลัพธ์ที่ได้
หลังจากที่ได้นำทั้ง 3 สามชิ้นไปต้มเป็นเวลา 20 นาทีนั้นผลปรากฏว่า ทั้งปุ่มกด หน้ากาก และสาย นิ่มกว่าเดิม 40-50% และสวมใส่สบายขึ้นอีกด้วย นับว่าเป็นการทดลองที่ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี
หวังว่าทุกท่านคงจะได้รับประโยชน์จากบทความเรื่องนี้ไปบ้าง ไม่มากก็น้อยนะครับ อ่านเพลินๆ สนุกๆไปเรื่อยๆ และขอย้ำอีกครั้งว่า ถ้าใครคิดจะลองทำเองก็ใช้ความระมัดระวังกันด้วยนะครับ หรือถ้าอยากส่งบทความทดสอบ G-Shock ของท่านก็เชิญส่งมาได้เลยนะครับ จะได้แบ่งปันความรู้กัน
2 ความคิดเห็น:
และแล้วก็มาถึงเวลาที่ทุกท่านรอคอย เรือนร่างอันปล่าวเปลือย ของน้อง G
ตอนแรกกะจะใช้ เรือนร่างอันปล่าวเปลือย ของ Mudman ตามต้นฉบับ แต่มันฟังดูหดหู่ยังไงพิกล
555 เห็นภาพเลยครับคุณเค
ช่วยถอมชิ้นส่วนขแง g-shock ga บางสิครับ
แสดงความคิดเห็น